Welcome to Pattaya.

วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว


-เปิดเวลา 08.00 - 18.00 น.
-ค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 70 บาท เด็ก 15 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท มอเตอร์ไซค์ 10 บาท รถยนต์ 50 บาท รถบัส 60 บาท
-การแสดงความสามารถของสัตว์ วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 11.00, 14.00, 15.00 และ 16.00 น. วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00, 14.00 และ 15.30 (ไม่เสียค่าเข้าชมเพิ่ม)
-ไนต์ซาฟารี เวลา 19.00 และ 20.00 น. (ซ้อตั๋วก่อน 18.00 น.) ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
-บริการรถกอล์ฟเช่าขับเที่ยวชมตามเส้นทาง ราคา 300 บาท/ชม. (รถออโตแทรมบริการฟรี)
-ติดต่อล่วงหน้า โทร. 0-3829-8188-9, 03829-8270
สวนสัตว์แห่งนี้อยู่ที่เชิงเขาเขียวซึ่งเป็นป่าแห่งเดียวในชลบุรี ดำเนินการโดยองค์การสวนสัตว์ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี นักท่องเที่ยวจะได้ชมสัตว์ต่าง ๆ มากว่า 300 ชนิด เช่น ลิง ค่าง ช้าง ม้าลาย กวาง แพะ นกยูง ฯลฯ สัตว์ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่กว้างขวางซึ่งมีการจัดสภาพธรรมชาติให้เหมาะสมแก่อุปนิสัยของสัตว์ และให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างใกล้ชิด แต่ก็ยังมีบางส่วนที่อยู่ในกรง ทั้งมีการนำชมสัตว์ในเวลากลางคืนหรือไนท์ซาฟารีด้วย
ที่ตั้ง หมู่ 7 ต. บางพระ อ. ศรีราชา เชิงเขาเขียว ห่างจากตัวเมืองศรีราชาประมาณ 25 กม.
รถยนต์ส่วนตัว จาก ถ. สุขุมวิทบริเวณย่านตลาดบางพระไปตามป้ายบอกทางไปสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ผ่านสนามกอล์ฟบางพระอินเตอร์เนชั่นแนลกอล์ฟคลับ ถนนจะลัดเลาะไปตามของอ่างเก็บน้ำบางพระ ขึ้นสะพานข้ามทางหลวงหมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-พัทยา) ตรงต่อไปอีก 7 กม. ถึงบริเวณสวนสัตว์ สามารถขับรถวนภายในสวนสัตว์ จอดแวะชมตามจุดต่าง ๆ ได้สะดวก ถ้ามาจากทางหลวงหมายเลข 7 ก็มีป้ายบอกทางชัดเจนเช่นกัน
รถประจำทาง คิดรถสองแถวอยู่บนถนนไปอ่างเก็บน้ำบางพระ ข้างศาลเจ้าราคา 20 บาท หรือเหมาไปราคาแร้วแต่ตกลง
-เที่ยวไป เที่ยวแรก 07.30 น. เที่ยวสุดท้าย 18.00 น.
-เที่ยวกลับ เที่ยวแรก 06.15 น. เที่ยวสุดท้ายไม่แน่นอนควรนัดรถไว้ล่วงหน้า
ประวัติ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2517 โดยฟื้นฟูสภาพป่าเขาเขียวที่เสื่อมโทรมขึ้นใหม่จากนั้นได้นำสัตว์บางส่วนจากสวนสัตว์ดุสิตมาปล่อยเลี้ยงในสภาพธรรมชาติ และเริ่มเปิดให้เข้าชมเมื่อ พ.ศ. 2521 ปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ นับเป็นสวนสัตว์เปิดที่มีเนื้อที่มากที่สุดในโลก โดยแบ่งออกเป็นส่วนวิจัยและศึกษาพันธุ์สัตว์ป่าหายาก 3,500 ไร่ (ส่วนนี้ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชม) พื้นที่ที่เหลือจัดเปิดสวนสัตว์เปิด 1,000 ไร่ และส่วนบริการอีก 500 ไร่


สวนนงนุช

คุณนงนุช ตันสัจจา เป็นผู้ก่อตั้งสวนนงนุชขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2523 โดยตกแต่งสร้างสรรค์เนื้อที่ประมาณ 1,300 ไร่ ให้มีบรรยากาศแบบธรรมชาติ มีน้ำตกจำลอง ทะเลสาบ และสวนไม้ดอกไม้ประดับ ทั้งยังมีภัตตาคาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และที่พักทั้งแบบห้องพักกระท่อม บ้านเรือนไทย บริการด้วย เหมาะสำหรับครอบครัวมาพักผ่อนหย่อนใจ
ที่ตั้ง หมู่ 7 ต. นาจอมเทียน อ. สัตหีบ ใกล้ชายทำเลบางเสร่ ห่างจากหาดจอมเทียนประมาณ 17 กม.
รถยนต์ส่วนตัว จากหาดจอมเทียน ใช้ ถ.สุขุมวิท ไปทาง อ. สัตหีบ ผ่านทางแยกเข้าวัดญาณฯ ไปจนถึงหลัก กม. 163 ให้เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทางอีก 3.5 กม. ถึงบริเวณสวน
สิ่งน่าสนใจ
-สวนไม้ดอกไม้ประดับ อยู่กระจายเป็นกลุ่ม ๆ ภายในอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ของสวนนงนุช โดยแบ่งตามประเภทของพรรณไม้ เช่น สวนสับปะรดสี สวนกล้วยไม้ ส่วนเฟิน สวนบอนไซหรือไม้ดัด สวนกระบองเพชร สวนปรง สวนเฮลิโคเนีย เป็นต้น โดยเฉพาะสวนปาล์ม ที่นี่สามารถรวบรวมพันธุ์ ปาล็มได้จากทั่วทุกมุมโลก
-การแสดง มีการแสดงฟ้อนรำไทยสี่ภาค ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว กีฬาพื้นบ้านไทย และการแสดงของช้างแสนรู้เช่น ขี่จักรยาน เล่นฟุตบอล ฯลฯ
-สวนสัตว์ขนาดเล็ก มีลิงชิมแปนซี ลิงกัง สิงต เสือดาว ฯลฯ นักท่องเที่ยวสามารถ่ายรูปกับสัตว์เหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด
-เปิดเวลา 08.00 - 18.00 น.
-ค่าเข้าชมสวน ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก (ต่ำกว่า 11 ปี) 50 บาท
-การแสดงศิลปะไทยและช้างแสนรู้มีรอบ 09.45, 10.30, 15.00, 15.45 น. (รอบละ 1 ชม.) ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท
-โทร. 0-2251-2161, 0-3870-9358-61.


วัดญาณสังวราราม


มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาในเขต อ. บางละมุง เมื่อมองลงมาจะเป็นทัศนียภาพอันงดงามของเขตวัดไปจนจดเมืองพัทยา การจัดสร้างวัดญาณฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดทูนพระมหากษัตริย์ไทย ดังจะเห็นได้จากนามของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในวัด นอกจากนี้ยังต้องการให้เป็นที่สำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรม บรรยากาศภายในวัดจึงร่มรื่นและเงียบสงบ
ที่ตั้ง บ้านมาบฟักทอง ต. ห้วยใหญ่ อ. บางละมุง ริมอ่างเก็บน้ำบ้านอำเภอ ห่างจากหาดจอมเทียนประมาณ 15 กม.
รถยนต์ส่วนตัว จากหาดจอมเทียนหรือพัทยา ใช้ ถ. สุขุมวิทไปทาง อ. สัตหีบ ผ่านทางเข้าชุมชนบ้านอำเภอไปราว 2 กม. จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทางไปวัดญาณฯ อีก 5 กม. ถึงบริเวณวัด มีลานจอดรถกว้าง
ประวัติ ปี พ.ศ. 2519 นพ. ขจร และคุณหญิงนิธิวดี อ้นตระการ มีจิตศรัทธาถวายที่ดินแด่สมเด็จพระญาณสังวร สดเด็จดพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน โดยแสดงความประสงค์ว่าให้เป็นที่สร้างวัดและขอให้ใช้ชื่อสมณศักดิ์ "ญาณสังวร" เป็นชื่อของวัดด้วยสมเด็จพระญาณสังวรทรงรับถวายและดำเนินการสร้างวัดขึ้นพื้นที่บริจาคเดิมประมาณ 100 ไร่จากนั้นคุณหญิงนิธิวดี และ พญาสุอารีย์ อ้นตระการ ได้บริจาคเพิ่มเติมจนมีพื้นที่ทั้งหมด 366 ไร่ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร

ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค (Silverlake)


ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค (Silverlake) เป็นไร่องุ่นของคุณ สุพรรษา อยู่ติดกับวัดเขาชีจรรย์ บรรยาศที่ไร่องุ่นแห่งนี้ ดีและสวยมาก ๆ มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่นที่เอาไว้ขายเช่น น้ำองุ่น พาย บิสกิต องุ่นสด และลูกเกด ที่ไร้องุ่นซิลเวอร์เลคยังมีบริการขับรถ ATV 200 บาท ต่อ 20 นาที ขี่จักรยาน ขี่จักรยานน้ำ ขี่ช้างป่า หรือนั่งรถม้าแล้วตากอากาศชมความสวยงามของดอกไม้ที่สวยงามมาก ในไร่องุ่นซิลเวอร์เลคแห่งนี้ ยังมีผู้คนที่มาเที่ยวที่นี่มากอีกด้วย แล้วที่ไร่องุ่นนี้ยังสามารถเข้าชมได้ฟรี แถมยังได้ชิมผลผลิตจากไร่อีกด้วย ว่ารสชาติจะเป็นเช่นไร และที่ไร่องุ่นนี้ ยังได้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง สูตรเสน่หา ที่ออกอากาศทางช่อง 3 ที่นำแสดงโดย แอน - เคน
ส่วนการเดินทางมายังที่นี่
การเดินทางเป็นทางเดียวกับวัดญาณสังวราราม คือแยกซ้ายจากถนนสุขุมวิทบริเวณ กิโลเมตรที่ 160 (เลยพัทยาแต่ก่อนถึงสวนนงนุช) ตรงเข้ามาตามป้ายวัดญาณฯไปอีก 6 กิโลเมตร ถึงแยกเลี้ยวขวาเข้าไปทางเขาชีจรรย์ ขับตามทางไปอีกนิดก็จะถึงทางแยกตัว T ก็ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายไปอีกนิดเดียวจากแยกตัว T นี้ก็ถึงแล้วไร่องุ่นซิลเวอร์เลค (Silverlake) แต่ที่จริงแล้วก็เกือบจะถึงจังหวัด สัตหีบเลยครับ

ตลาดน้ำ 4 ภาค


ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมของไทย แห่งใหม่ที่อยู่ท่ามกลางใจเมืองพัทยา สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม ที่ได้จำลองวิธีชีวิตความเป็นอยู่ของชนชาวไทยที่เรียบง่าย เรียนรู้วิถีพอเดียงดั้งเดิมที่ผู้พันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตกาลสืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ของทั้ง 4 ภาคในประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉัยงเหนือ(ภาคอีสาน) และ ภาคกลาง
ณ ที่ตลาดน้ำ 4 ภาค(พัทยา) ยังมีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชขาติจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม แล้วยังได้นั่งเรือพายชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งของแม่น้ำ รวมไปถึงสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในการค้าขาย ทางน้ำ ในที่ตลาดน้ำ 4 ภาค ท่านยังได้พบกับร้านค้าเรือนไทยด้วยไม้สักทั้งหลังที่สวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำ 4 ภาค(พัทยา) จุดเด่นของเรือนไม้สักของแต่ละโซนภาคในประเทศไทยจะสังเกตุง่าย ๆ คือ หน้าจั่วที่มี ลักษณะแตกต่างกันเช่น เรือนภาคเหนือ มีเอกลักษณะพิเศษคือ กาแลไม้แกะสลัก อย่างงดงาม มีจำนวน 43 หลัง ซุ้มลีลาวดี และซุ้มกล้วยไม้จะเป็นจุดสำหรับพักผ่อน แล้วยังรวมไปถึงลานล้อที่เป็นลาน "กิจกรรมการแสดงของภาคเหนือ" เรือนภาคกลางจะตกแต่งบนยอดจั่วที่เรียกว่า "ปั้นลม" มีจำนวนรวม 31 หลัง มีลานของการแสดงอยู่ 2 ลานจะได้แก่ ลานเถิดเทิง และลานบางระจัน, ต่อมาคือเรือนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ (ภาคอีสาน) ยอดของจั่วจะเป็นรูปรัศมีสีของพระอาทิตย์เรืองรอง เรียกว่า "ยอดธง" ประกอบด้วยเรือน 22 หลัง แล้วยังมีลานของหมอลำเป็นการแสดง, เรือนสุดท้ายคือ เรือนของภาคใต้ มียอดจั่วที่เรียกว่า ปีกผีเสื้อ ประกอบด้วยเรือนจำนวน 15 หลัง มีซุ้มเฟื่องฟ้า ลานเบตง และลานโนราห์ เป็นลานกิจกรรมการแสดง
แต่สำหรับสินค้าทั้ง 4 ภาค ที่มีให้ท่านซื้อเป็นของฝาก หรือว่าจะซื้อนำกลับบ้าน ก็จะแตกต่างกันออกไปตามวิถีชีวิตของแต่ละภาค โดยทางภาคอีสาน โดดเด่นในกลุ่มสินค้าผ้าไหมหมัดหมี่ ผ้าไม่แพรวา เทียนหอม หมอนอิง, ภาคเหนือ จะเป็นสินค้างานไม้แกะสลัก เครื่องเงิน ผ้าพื้นเมิงลวดลายงดงามวิจิตร ผ้าไหม และร่มกระดาษ, ภาคใต้สินค้าเลื่องชื่อได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวผ้าบาติก เรือไม้จำลอง, และภาคสุดท้ายสำหรับภาคกลาง ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์หวาย กระเป๋าสาน เครื่องประดับ
ความตั้งใจจริงเพื่อให้ตลาดน้ำ 4 ภาค(พัทยา) แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมของไทยเรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียงที่สัมผัสได้ รวมถึงเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมความเป็นอยู่ให้ครอบคลุมในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเป็นอยู่ การค้า การแสดง การกิน รวมทั้งงานทางด้านหัตถกรรมต่าง ๆ ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมา ความเจริญรุ่งเรือง และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่สมควรได้รับการดูและ และคุณค่าแก่การอนุรักษ์ให้คงอยู่นานเท่านาน โครงการตลาดน้ำ 4 ภาค(พัทยา) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวบึงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกแห่งเดียวที่จะคงไว้ซึ่งวิถึชีวิตคนไทยที่ยึดแนวแล้วเดินตามรอยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองพัทยา รวมไปถึงสร้างทัศนคติความประทับใจกับผู้มาเยือน

เกาะล้าน


เกาะล้าน เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาช้านาน เพราะอยู่ใกล้กับพัทยามาก ตามเกาะมีหาดทรายหลายหาดและแนวปะการัง จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ต้องการความสนุกสนานจากเครื่องเล่นนานาชนิด หรือผู้ที่ต้องการพักผ่อนเงียบ ๆ กับทะเลที่สวยงาม
ส่วนนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำชมปะการัง มีเกาะเล็ก ๆ ใกล้กับเกาะล้านให้ไปเที่ยวชมปะการัง มีเกาะเล็ก ๆ ใกล้กับเกาะล้านให้ไปเที่ยวชมอีกสองเกาะ คือ เกาะครกและเกาะสาก ทั้งสองเกาะสามารถดำน้ำได้ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้นนักท่องเที่ยวต้องเช่าเรือจากเกาะล้านหรือพัทยาใต้ไป โดยต้องจัดหาอุปกรณ์ดำน้ำไปเอง
ที่ตั้งและการเดินทาง เกาะล้านตั้งอยู่ในแนวขนานกับหาดพัทยา ห่างจากอ่าวพัทยาเพียง 7.5 กม. นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางไปเกาะล้านได้สองวิธี คือ
เรือเมล์ มีเรือเมล์ลำใหญ่รับส่งที่ท่าเรือพัทยาใต้ ค่าโดยสาร 20 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
-เที่ยวไป 07.00, 10.00, 12.00, 14.00, 15.30, 17.00, 18.30 น.
-เที่ยวกลับ 06.30, 07.30, 09.30, 12.00, 14.00, 17.00, 18.00 น.
เรือเร็ว มีเรือเร็วที่ท่าเรือพัทยาใต้ ค่าโดยสาร 150-200 บาท รับผู้โดยสารเที่ยวละ 6-8 คน ถ้ามากันเป็นกลุ่มใหญ่อาจเช่าเหมาเรือเร็วไปได้ มีให้เช่าทั้งที่หาดพัทยากลางและพัทยาใต้ แต่ที่หาดพัทยาใต้มีมากที่สุด ใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาที
-เรือเร็วเครื่องยนต์เดียว ราคาเหมา 1,200-1,500 บาท/วัน (ไป-กลับ) นั่งได้ 12 คน
-เรือเร็วสองเครื่องยนต์ ราคาเหมา 2,000 บาท/วัน (ไป-กลับ) นั่งได้มากกว่า 15 คน
การเดินทางบนเกาะล้าน
เมื่อถึงท่าเรือหน้าบ้านบนเกาะล้านแล้ว ต้องใช้บริการมอเตอร์ไซค์หรือสองแถวเดินทางไปยังหาดต่าง ๆ รถทั้งสองชนิดนี้มีอัตราค่าโดยสารเท่ากัน
-หาดตาแหวน 20 บาท/หาดทองหลาง 30 บาท/หาดเทียน 30 บาท/หาดแสม 30 บาท/หาดนวล 40 บาท
เช่ามอเตอร์ไซค์บนเกาะ ติดต่อขอเช่าได้จากคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ราคาประมาณ 300-400 บาท/วัน แล้วแต่ต่อรอง ข้อระวังคือ เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางขึ้นเขาชันมากและเป็นถนนดินอัด ทางจะลื่น ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ขับมอเตอร์ไซค์ไม่ชำนาญ
การเดินทางไปเกาะสาก-เกาะครก
เหมาเรือจากเกาะล้าน ไป-กลับ ราคาประมาณ 800-1,000 บาท ถ้าเหมาจากพัทยาใต้ ไป-กลับ ราคาประมาณ 2,000-2,500 บาท
สิ่งที่น่าสนใจ
เกาะล้านมีขนาดกว้าง 2 กม. ยาว 5 กม. มีชายหาดอยู่สามด้านคือ ด้านตะวันตกมีหาดแสมและหาดเทียน เหมาะสำหรับคนชอบความสงบและบรรยากาศพระอาทิตย์ตก ด้านทิศเหนือมีหาดตาแหวน หาดทองหลาง และหาดสังวาลย์ มีนักท่องเที่ยวคึกคักส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์ ส่วนด้านใต้มีเพียงหาดเดียวคือหาดนวลนอกจากนี้ยังมีเกาะสากที่มีชายหาดสวยงามและมีบ้านพัก
-ท่าเรือหน้าบ้าน
เป็นท่าเรือของชุมชนเกาะล้านที่นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางด้วยเรือเมล์จะไปถึงเป็นจุดแรก เมื่อมองย้อนหลับไปยังฝั่งจะเห็นเมืองพัทยาและจอมเทียนที่มีตึงสูงเรียงรายตลอดแนวชายฝั่งทะเล นับเป็นจุดชมเมืองพัทยาที่สวยงามมากที่สุด
-หาดแสม
เป็นหาดทรายขาวเนียนละเอียดยาวถึง 800ม. เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่ดี ในอดีตมีการพบแร่ทองคำและกลายเป็นที่มาของชื่อแหลมทอง ซึ่งอยู่ทางหัวหาดตอนเหนือ อันเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่แหลมทองที่ชาวเกาะล้านนับถือ